บทสัมภาษณ์เจาะลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ ‘คุณหมอนิดา’ แห่ง Nida Esth’ Medical Centre

ในช่วงระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ ‘คุณหมอนิดา’ และ Nida Esth’ Medical Centre เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและโด่งดังมากในกลุ่มคนไข้เซเลป นักธุรกิจ และบุคคลชั้นนำในระดับประเทศในแถบเอเชียและตะวันออกกลางในฐานะ ศูนย์การแพทย์ ผู้นำด้านการปลูกผมไม่ผ่าตัด หรือปลูกผมสเต็มเซลล์ หรือปลูกผมด้วยเซลล์รากผมแบบครบวงจรที่ได้คืนความมั่นใจพร้อมผลลัพธ์ผมดกหนาเป็นธรรมชาติให้กับคนไข้มากมายหลัก 1,000 เคส จนมีคนไข้อีกนับไม่ถ้วนต่างหลั่งไหลกันเข้ามาต่อคิวปรึกษาและทำการรักษากับคุณหมอนิดา

โดยบริการที่โดดเด่นและได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มงานด้านการปลูกผมไม่ผ่าตัดของ Nida Esth’ Medical Centre เห็นทีจะไม่พูดถึง UR Cell Hair MicroTransplant+ ไม่ได้ เพราะถือเป็นเทคนิคบุกเบิกที่คุณหมอนิดาและทีมแพทย์ได้คิดค้นพัฒนาขึ้นจนเป็นโปรแกรมการปลูกผมแบบไม่ผ่าตัด เทคนิคแรกหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในเชิงประสิทธิภาพของผลลัพธ์การรักษาคนไข้จากทั่วทุกมุมโลกที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนมากที่สุด

ปลูกผมไม่ผ่าตัด เพิ่มจำนวนเส้นผมได้อย่างไร ?

UR Cell Hair MicroTransplant+ เป็นโปรแกรมปลูกผมไม่ผ่าตัดที่ผสานศาสตร์การเพิ่มจำนวนเส้นผมจากยุโรปและเทคนิคเพิ่มความหนาจากประเทศญี่ปุ่นจาก Professor Dr. Fukuoka Hirotaro บิดาแห่งศาสตร์ในการปลูกผมแบบไม่ผ่าตัด หรือ Non-surgical Hair Transplant ในประเทศญี่ปุ่น

โดยคุณหมอนิดาและทีมแพทย์ของ Nida Esth’ Medical Centre ได้นำองค์ความรู้ทั้ง 2 มาพัฒนาต่อยอดจนเกิดเป็นการปลูกผมแบบไม่ผ่าตัด ซึ่งนับว่าเป็นการพลิกโฉมวงการการปลูกผมแบบเดิมๆ สู่ปฐมบทใหม่ของการรักษาปัญหาผมร่วง-บางจากฮอร์โมนและพันธุกรรมโดยการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเป็นครั้งแรกเพื่อผลลัพธ์ผมดกหนาเป็นธรรมชาติ แบบไม่ต้องกินยา ไม่ต้องผ่าตัด และไม่เสี่ยงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

โดย UR Cell Hair MicroTransplant+ ใช้กรรมวิธีในการ “สกัดเซลล์รากผม” ของผู้ที่มีปัญหาผมบางในจุดที่มีจำนวนเส้นผมแข็งแรงคงเหลืออยู่เพื่อให้ได้ Lived Cells ที่มีชีวิตและแข็งแรงพร้อมที่จะนำไปทำการ “ฝัง” ลงสู่รูรากผมในบริเวณที่ประสบปัญหา โดยการรักษาสามารถทำได้ในคนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง-บางจากฮอร์โมนและพันธุกรรมในระดับแรกเริ่มจนถึงปานกลางทั้งชายและหญิง ในทุกช่วงอายุ

และด้วยความแตกต่างที่สามารถสร้างเส้นผมใหม่ได้แบบไม่ต้องผ่าตัดทำให้มีคนไข้มากมายต่างให้ความสนใจและเข้ามารับการรักษาอย่างคับคั่งทั้งในไทยและนานาประเทศหลัก 1,000 เคส จนได้รับการขนานนามและการการันตีด้วยรางวัลในระดับภูมิภาคจากผลโหวตของผู้เข้ารับบริการทั่วทวีปเอเชียที่เลือกให้ Nida Esth’ Medical Centre เป็น “ศูนย์ปลูกผมที่เห็นผลที่สุด” และ “ศูนย์ปลูกผมไม่ผ่าตัดที่มีผลลัพธ์การรักษามากที่สุด” โดย 168AsiaTopTen เป็นเวลา 2 ปีซ้อนในปี (2021-2022)

การันตีผลลัพธ์ “ผมดกหนา” ด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ

ล่าสุดในปี 2022 ที่ผ่านมากับรางวัลอันทรงเกียรติจาก ‘กองบรรณาธิการนิตยสาร HELLO! แห่งประเทศไทย’ ได้คัดเลือกให้ Nida Esth’ Medical Centre เป็น “ศูนย์การแพทย์ที่ได้รับการไว้วางใจด้านผลลัพธ์ศัลยกรรมความงามจากคนไข้ทั่วโลกและผู้นำด้านเทคโนโลยีเลเซอร์ความงามระดับสากล” อันเป็นผลพวงมาจากความตั้งใจและความทุ่มเทของบุคลากรการในทุกฝ่ายของ Nida Esth’ Medical Centre ในการเฟ้นหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อมาตอบโจทย์ในทุกปัญหาและความกังวลของคนไข้แบบครบจบในที่เดียว

และเพื่อการตอบโจทย์ของคนไข้ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ล่าสุดทีมแพทย์ Nida Esth’ Medical Centre นำทีมโดย ‘คุณหมอนิดา’ ได้ลงทุนนำเข้าเทคโนโลยีขั้นสูงจากสหรัฐอเมริกา Fotona Dynamis Pro with Scanner ที่ผ่านการรองรับมาตรฐานจาก USFDA และนานาชาติต่างให้ความไว้วางใจ โดย Nida Esth’ Medical Centre เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ณ ปัจจุบันที่นำเข้าเทคโนโลยี Fotona Dynamis Pro ที่ครบและ Complete ในทุกโหมดฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อศักยภาพในการรักษาแบบครบวงจรตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า”

วันนี้เราจึงจะมาพูดคุยกับ ‘แพทย์หญิงสุนิดา ยุทธโยธิน’ หรือที่รู้จักกันดีในนาม ‘คุณหมอนิดา’ หรือ ‘Dr. Nida’ สำหรับคนไข้ต่างชาติ American Board ด้านความงาม CEO & Founder of Nida Esth’ Medical Centre: Premium Laser & Cosmetic Surgery Institute ถึงความสำเร็จในฐานะผู้นำปลูกผม ด้านปลูกผมไม่ผ่าตัด พร้อมเจาะลึกเทคโนโลยีล่าสุดที่ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง-บางได้อย่างครอบคลุมและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ความสำเร็จในช่วงปีที่ผ่านมาของ UR Cell Hair MicroTransplant+: โปรแกรมบุกเบิกการปลูกผมไม่ผ่าตัดของ Nida Esth’ Medical Centre

ในปี 2022 ที่ผ่านมา สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายลงและคนไข้เข้ากลับเข้ามาใช้บริการกันมากขึ้น การปลูกผมด้วย UR Cell Hair MicroTransplant ถือได้ว่าเป็นหัตถการที่ได้รับเสียงตอบรับดีที่สุดจากผู้เข้าใช้บริการทั้งชาวไทยและต่างชาติในช่วงปีนี้

หมอพบว่า UR Cell Hair MicroTransplant+ สามารถตอบโจทย์ให้ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง-บางในระดับต้นจนถึงปานกลางจากฮอร์โมนและพันธุกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่จุดเด่นที่สร้างความแตกต่างและดึงดูดความสนใจของคนไข้หลายคนคือ การที่ไม่ต้องรับประทานยาและการไม่ต้องผ่าตัด จึงทำให้คนที่กลัวผลค้างเคียงจากการใช้ยา กลัวการผ่าตัด และกลัวเจ็บ ไม่อยากโกนศีรษะ และไม่มีเวลาพักฟื้นนานต่างให้ความสนใจเข้ามาปรึกษากันอย่างล้นหลาม

ผลลัพธ์ของ UR Cell Hair MicroTransplant เป็นที่ประจักษ์ในวงการการปลูกผมที่สามารถเพิ่มจำนวน พร้อมเพิ่มความหนาของเส้นผมใหม่ ช่วยให้ผมที่เกิดใหม่แข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงง่าย แต่สุดท้ายเนื่องด้วยข้อจำกัดของการรักษาผมร่วง-บางจากสาเหตุฮอร์โมนและพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว UR Cell Hair MicroTransplant+ จึงยังไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาผมร่วง-บางจากสาเหตุอื่นที่คลอบคลุมมากไปกว่านี้ได้

ทางทีมแพทย์จึงค้นคว้าหาเทคโนโลยีและเทคนิคต่างๆ ที่จะสามารถมาแก้ไขปัญหาในจุดเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงได้ค้นพบโปรแกรม Fotona HAIRestart® Plus Growth Factor โดยการใช้ Fotona Dynamis Pro with Scanner เทคโนโลยีมาตรฐาน USFDA จากสหรัฐอเมริกา ที่เป็นอีกหนทางสู่การแก้ไขปัญหาผมร่วง-บางแบบไม่ผ่าตัดได้ครอบคลุมและตอบโจทย์ในทุกมิติของปัญหาผมร่วง-ผมบาง

เทคนิคใหม่ล่าสุดของเลเซอร์ปลูกผม

ด้วยโปรแกรม Fotona HAIRestart® จาก Fotona Dynamis Pro ผสานกับการทำงานของ Bio Growth Factor

เลเซอร์ปลูกผมคืออะไร ?

โปรแกรม Fotona HAIRestart® เป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นเฉพาะของ Fotona Dynamis Pro ที่ได้รับการออกแบบการส่งพลังงานลำแสงและค่าความเข้มข้นที่เหมาะสำหรับการรักษาปัญหาผมร่วง-บาง โดยสามารถส่งสัญญาณเข้าไป

• ปลุก เซลล์รากผมที่ตายแล้วให้ฟื้นคืน เตรียมพร้อมการเกิดใหม่ของเส้นผม
• กระตุ้น สเต็มเซลล์รากผมเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผมตามธรรมชาติ
• ฟื้นฟู สุขภาพหนังศีรษะและเพิ่มระดับเมทาบอลิซึมในระดับเซลล์เพื่อพร้อมแก่การแบ่งตัวของเซลล์รากผม
• เสริมสร้าง การเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีไม่หลุดร่วงง่าย

เลเซอร์ปลูกผมทำงานอย่างไร ?

Fotona HAIRestart® ทำงานโดยการปล่อยลำแสงเลเซอร์ Er:YAG (Non-ablative) ที่ความยาวคลื่น 2940 นาโนเมตรลงบนเนื้อเยื้อบริเวณหนังศีรษะ และเมื่อกระตุ้นหนังศีรษะด้วยในระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม รูรากผมที่ฝ่อตัวจะถูก “ปลุก” ขึ้นพร้อมส่งผลต่างๆ สู่บริเวณหนังศีรษะโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับเนื้อเยื้อบริเวณโดยรอบ ทำให้การไหลเวียนของเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงการเจริญเติบโตของเส้นผมทำงานดีขึ้น พร้อมกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการอักเสบของรูรากผมและยังช่วยเร่งการเกิดใหม่ของรูรากผมที่ฝ่อตัวลง

แต่จากการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ‘คุณหมอนิดา’ ได้พัฒนาต่อยอดแนวทางการรักษาของโปรแกรม Fotona HAIRestart® โดยการนำมาใช้ควบคู่กับ ‘Bio Growth Factor หรือ โกรทแฟคเตอร์ชีวภาพ’ โดยมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของสเต็มเซลล์บริเวณรากผม นำมาใช้ในการรักษาควบคู่กับ Fotona HAIRestart® เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของเส้นผมได้อย่างเต็มรูปแบบ

จากการรักษาคนไข้หลักร้อยรายพบว่าผลการรักษาชี้ให้เห็นว่า เป็นที่น่าพึงพอใจมาก โดยสามารถแก้ไขปัญหาให้กับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง–บางจากสาเหตุมาจากสาเหตุอื่นๆ นอกเหนือจากฮอร์โมนและพันธุกรรม เช่น 

• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายเช่น ภาวะ Menopause
• การใช้เคมีและความร้อนที่รุนแรงต่อเส้นผมและหนังศีรษะ
• ผมร่วงจากการคลอดบุตรและภาวะหลังผ่าตัด
• ผลพวงจากภาวะโรคที่ก่อให้เกิดผมร่วง-บาง
• ภาวะ Long Covid ก็สามารถทำการรักษาได้เช่นกัน

เลเซอร์ปลูกผมเหมาะกับใคร ?

Fotona HAIRestart® Plus Bio Growth Factor เป็นโปรแกรมที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง-บางแบบไม่ผ่าตัด โดยเพิ่มจำนวนและความหนาของเส้นผม เหมาะกับคนที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาผมร่วง-บางจากสาเหตุที่ครอบคลุมนอกเหนือจากฮอร์โมนและพันธุกรรม ซึ่งเหมาะกับผู้ที่เคยปลูกผมมาแล้วและต้องการที่จะ Maintain ผลลัพธ์การรักษา และผู้ที่มีประวัติครอบครัวพันธุกรรมผมร่วง-ผมบางและต้องการจะป้องกันปัญหาผมร่วง-บางที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะเริ่มเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังการรักษาประมาณ 8-12 ครั้ง ทุก 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการวินิฉัจของแพทย์ตามการประเมินความรุนแรงและการตอบสนองของคนไข้ในแต่ละบุคคล พร้อมีการจ่ายยาเพื่อเสริมการทำงานของการฟื้นฟูเส้นผมใหม่ให้อีกด้วย

และอีกหนึ่งประการสำคัญที่ทำให้ Nida Esth’ Medical Centre ประสบผลสำเร็จในการรักษาปัญหาผมร่วง-ผมบาง ความลับสำคัญนั้นก็คือ ขั้นตอนการตรวจวิเคราะห์ปัญหาผมในระดับเซลล์ด้วย “Nano Score Robotic System” ซึ่งคุณหมอนิดาได้ลงทุน Import เทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์จากประเทศเยอรมันนีมูลค่ากว่า 6 หลักเพื่อที่จะนำมาตรวจวิเคราะห์ปัญหาเส้นผมโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการตอบคำถามที่คนไข้ต่างก็กังวลใจว่า ปัญหาเหล่านี้สามารถทำการรักษาได้หรือไม่ และเป็น Complete Report นอกเหนือจากการมองเห็นผลลัพธ์ผมดกหนาได้ด้วยตาเปล่าแล้ว ก็ยังเป็นผลลัพธ์ในเชิงการแพทย์ที่คนไข้สามารถพิสูจน์และเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อน-หลังการรักษาได้อย่างชัดเจน

“ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาผมร่วง-บางอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัดอยู่ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมเข้ารับการตรวจด้วย Nano Score Robotic System ในการวิเคราะห์เส้นผมและหนังศีรษะแบบลึกเข้าไปในระดับเซลล์ เพื่อตรวจหาจำนวนเส้นผมและความหนาแน่นโดยเฉลี่ยรวมของเส้นผม ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์เพื่อการออกแบบการรักษาแบบ Personalized Treatment AI Plan ที่เหมาะสมและตรงจุดกับคนไข้มากที่สุด”