วันนี้เราจะพูดถึง ศัลยกรรมเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค Dr. Piya’s Signature 3D Breast Augmentation โดย คุณหมอปิยะ ศัลยแพทย์ขวัญใจดารา-เซเลบทั่วไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความ “เนี้ยบและสวยสั่งได้” ผ่านการ Customization ในแต่ละเคส เทคนิคนี้ผสาน 3 นวัตกรรม
1. Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) เทคนิคพิเศษเฉพาะตัวที่ช่วยให้เนินอกชิดและทรงชัดเจน
2. Muscle-Relaxant-assisted Breast Augmentation ลดอาการเจ็บหลังผ่าตัดและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ พร้อมลดโอกาสการเกิดพังผืดรัดตัว เข้าทรงเร็ว ไม่ต้องรอนาน
3. Insertion Sleeve Technique เน้นแผลเล็ก ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ
การเสริมหน้าอก Triple Plane Mini-Lifting Technique คืออะไร?

เทคนิค Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) หรือการวางซิลิโคนแบบกึ่งใต้กล้ามเนื้อ เป็นการผสานข้อดีของการเสริมหน้าอกทั้งแบบเหนือและใต้กล้ามเนื้อเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวที่คุณหมอปิยะพัฒนามาจากการวางซิลิโคนแบบ Dual Plane โดยวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อบางส่วนเพื่อให้ด้านบนดูเรียบเนียน ส่วนด้านล่างอยู่เหนือกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความโค้งเว้าอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คือหน้าอกสวยชิด เนียนเรียบ มองไม่เห็นขอบซิลิโคน เคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงการเกิดพังผืดและปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยในอนาคต
การเสริมหน้าอกแบบ Triple Plane Mini-Lifting Technique
การเสริมหน้าอกแบบ Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) ไม่เพียงช่วยให้หน้าอกชิดและมีวอลลุ่ม แต่ยังช่วยยกกระชับหน้าอกในกรณีที่หย่อนคล้อยเล็กน้อย โดยไม่ต้องผ่าตัดยกกระชับเพิ่มเติม ข้อดีของเทคนิคนี้ ได้แก่:
• เพิ่มวอลลุ่มและเนินอกให้ชัดเจน
• ตำแหน่งหน้าอกสวย ไม่หย่อนคล้อย
• ร่องอกชัดเจนและทรงหน้าอกเป็นธรรมชาติ
• แผลเล็กและรอยแผลเป็นน้อยกว่าการเสริมแบบทั่วไป
• รองรับน้ำหนักหน้าอกได้ดี ลดความเสี่ยงหย่อนคล้อยในอนาคต
ใครเหมาะกับการเสริมหน้าอกแบบ Triple Plane Mini-Lifting Technique
เทคนิค Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) เหมาะสำหรับการเสริมหน้าอกทั่วไปและยังสามารถแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยจากการคลอดบุตร การให้นมบุตร การลดน้ำหนัก หรือความชราตามธรรมชาติ โดยช่วยวางซิลิโคนให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เสริมส่วนล่างของเต้านมให้ดูเต็มและเป็นธรรมชาติ แม้จะไม่สามารถทดแทนการยกกระชับได้ในกรณีหย่อนคล้อยรุนแรง แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง
การเสริมหน้าอกด้วย Muscle Relaxant คืออะไร?

การเสริมหน้าอกด้วย Muscle Relaxant เป็นเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เนินอกชัด และลดความเจ็บหลังผ่าตัด โดยฉีด Muscle Relaxant เข้าสู่กล้ามเนื้อหน้าอกก่อนวางซิลิโคน เพื่อยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อที่อาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อนตำแหน่ง ช่วยให้ซิลิโคนเข้าที่เร็วขึ้นและลดอาการเจ็บในช่วงพักฟื้น เทคนิคนี้มักใช้ร่วมกับ Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาซิลิโคนเลื่อนตำแหน่งและเพิ่มความมั่นใจให้คนไข้ในระยะยาว.
ประโยชน์ของการเสริมหน้าอกด้วย Muscle Relaxant
Muscle Relaxant เป็นสารที่นิยมใช้ในวงการแพทย์ความงามเพื่อคลายกล้ามเนื้อและลดริ้วรอย คุณหมอปิยะได้นำคุณสมบัตินี้มาพัฒนาการเสริมหน้าอก โดยใช้ Muscle-Relaxant เพื่อช่วยคลายการหดตัวของกล้ามเนื้อหลังการผ่าตัด ส่งผลให้:
• ลดอาการเจ็บปวดและความไม่สบายหลังผ่าตัด
• ลดความจำเป็นในการใช้ยาแก้ปวด
• เร่งระยะเวลาการพักฟื้น ให้กลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น
• ช่วยให้ซิลิโคนเข้าที่เร็วขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
• มอบผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
• ลดโอกาสการเกิดพังผืดรัดตัว
การเสริมหน้าอกเทคนิค Insertion Sleeve คืออะไร?

เทคนิคการเสริมหน้าอกแบบ Insertion Sleeve เป็นนวัตกรรมที่ใช้กรวยปลอดเชื้อ เนื้อสัมผัสอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น ช่วยลดขนาดแผลผ่าตัด ลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อ และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ซิลิโคนจะไม่สัมผัสผิวหนังโดยตรง ทำให้วางตำแหน่งได้แม่นยำ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น.
เทคนิคการเสริมหน้าอกแบบ Insertion Sleeve มีวิธีการอย่างไร
ศัลยแพทย์จะเริ่มขั้นตอนโดยการเปิดแผลเพื่อใส่ซิลิโคนบนร่างกายของคนไข้ โดยมีหลายช่องทาง ได้แก่ ...
- บริเวณใต้ราวนม: อาจมีแผลเป็นเล็กน้อยเป็นรอยผ่าบริเวณใต้ราวนม แต่เป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็นเพราะธรรมชาติของเต้านมจะมีความหย่อนลงเล็กน้อยตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ปิดรอยแผลเป็นเอาไว้
- บริเวณปานนม: มีแผลเป็นเล็กน้อยหรืออาจไม่สังเกตเห็นเลย แต่มีความละเอียดมากกว่า จึงทำให้การผ่าตัดยากกว่า
- บริเวณใต้รักแร้: เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากให้มีแผลเป็นใต้ราวนม แต่การผ่าตัดค่อนข้างต้องอาศัยความชำนาญสูง และการดูแลรักษามีความซับซ้อนมากกว่าการผ่าตัดใต้ราวนม
หลังจากนั้น ศัลยแพทย์จะสอดกรวยใส่ซิลิโคนไปที่บริเวณแผลที่เปิดในตำแหน่งที่เหมาะสม และผู้ช่วยศัลยแพทย์จะนำซิลิโคนสอดเข้าไปผ่านกรวยด้านบน โดยศัลยแพทย์จะสอดใส่ซิลิโคนผ่านกรวยนี้ด้วยการบีบจนซิลิโคนเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
เทคนิคการเสริมหน้าอกแบบ Insertion Sleeve มีข้อดีอย่างไร
- ช่วยให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลง
- ลดอัตราการติดเชื้อ เนื่องจากแพทย์จะไม่ได้สัมผัสซิลิโคนเลย และกรวยใส่ซิลิโคน 1 ชิ้นจะใช้เพียง 1 ครั้งต่อการผ่าตัดเท่านั้น ช่วยลดการปนเปื้อนที่ซิลิโคน ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ รวมไปถึงลดการเกิดผังผืดในอนาคตด้วย
- ลดการสัมผัสซิลิโคน ทำให้ซิลิโคนไม่สัมผัสโดนอากาศนาน
- ลดการเสียดสีระหว่างซิลิโคนกับบาดแผล
- บอบช้ำน้อย ฟื้นตัวเร็ว เนื่องจากขนาดแผลที่เล็กลง จึงทำให้การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อบริเวณแผลน้อยลง ทำให้การฟื้นตัวไวขึ้นและลดอาการอักเสบของแผลด้วย
- ระยะเวลาในการผ่าตัดน้อยลง ช่วยให้การผ่าตัดใช้เวลาเร็วขึ้น เนื่องจากการใช้กรวยใส่ซิลิโคนจะทำให้แพทย์ไม่ต้องใช้เวลาอยู่กับการใส่ซิลิโคนนาน ทำให้คนไข้อยู่ในสภาวะดมยาสลบสั้นลง
- ยืดอายุของซิลิโคน การใช้กรวยใส่ซิลิโคนทำให้แพทย์ไม่ต้องใช้แรงบีบตัวซิลิโคนโดยตรง ทำให้ลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อผิวซิลิโคน