เสริมหน้าอกเทคนิคซิกเนอเจอร์ 3 มิติโดยหมอปิยะ DR. PIYA’S SIGNATURE 3D BREAST AUGMENTATION

เสริมหน้าอกเทคนิคซิกเนอเจอร์ 3 มิติโดยหมอปิยะ

รวมสามสุดยอดเทคนิคเสริมหน้าอกรังสรรค์

อกชิด-เนินชัด แผลเล็ก-เจ็บน้อย

กับ ‘คุณหมอปิยะ’ ศัลยแพทย์เสริมหน้าอก No.1 ของประเทศไทยด้วยฉายา

‘หน้าอกสวย เนี๊ยบ สั่งได้ เป็นธรรมชาติ’

“เมื่อที่สุดของคุณภาพและความงดงามมารวมกัน จึงเปรียบเสมือนเป็นความงดงามหรูหราเหมือน Hermes ในวงการศัลยกรรมเสริมหน้าอก”

ทำไมการเสริมหน้าอกเทคนิคDr. Piya’s Signature 3D Breast Augmentation ถึง Premium มากกว่า

อกชิด + เนินชัดเป็นธรรมชาติ + แผลเล็ก +  เจ็บน้อย +  ปลอดภัย

Nida Esth’ International ผสาน 3 เทคนิคพิเศษเพื่อผลลัพธ์เสริมหน้าอกระดับพรีเมียม ได้แก่ Dual Plane Mini-Lifting Technique (Subfascial) เพื่อเนินอกชัดและเป็นธรรมชาติ, Muscle-Relaxant-assisted Breast Augmentation ลดอาการเจ็บและช่วยให้ซิลิโคนเข้าที่เร็วขึ้น และ Insertion Sleeve ที่ช่วยลดขนาดแผลและความบอบช้ำ ร่วมกับ Implants รุ่นใหม่ ที่มาพร้อม Microchip เพิ่มความปลอดภัยและความทนทานสูง แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ฟื้นตัวไวและแทบมองไม่เห็นรอยแผล เทคนิค Dr. Piya’s Signature 3D Breast Augmentation จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมอบผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติยิ่งกว่าเดิม

 

service-dr-nida

What The Expert Says

‘นายแพทย์ ปิยะ รังรักษ์ศิริ’ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งและความงาม สมาชิค ISAPS และ ASPS พร้อมประสบการณ์กว่า 25 ปี ดำรงตำแหน่ง CEO & Co-Founder ของ Nida Esth’ International ศูนย์เลเซอร์และศัลยกรรมความงามระดับสากล การันตีความสำเร็จด้วยรางวัล Hello Beauty Award 2022, The Most Innovative Cosmetic Clinic of the Year in Asia Pacific 2023 จาก Global Health Asia Pacific และในปี 2024 กับรางวัล The Most Innovative Breast Augmentation Clinic of the Year ที่สะท้อนความมุ่งมั่นในการคัดสรรเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาความงามของคนไข้.

>> Read More <<

BEFORE & AFTER
เสริมหน้าอกเทคนิคซิกเนอเจอร์ 3 มิติโดยหมอปิยะ

MAKE AN APPOINTMENT

HIGHLIGHT ARTICLE

วันนี้เราจะพูดถึง ศัลยกรรมเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค Dr. Piya’s Signature 3D Breast Augmentation โดย คุณหมอปิยะ ศัลยแพทย์ขวัญใจดารา-เซเลบทั่วไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความ “เนี้ยบและสวยสั่งได้” ผ่านการ Customization ในแต่ละเคส เทคนิคนี้ผสาน 3 นวัตกรรม

1. Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) เทคนิคพิเศษเฉพาะตัวที่ช่วยให้เนินอกชิดและทรงชัดเจน

2. Muscle-Relaxant-assisted Breast Augmentation ลดอาการเจ็บหลังผ่าตัดและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ พร้อมลดโอกาสการเกิดพังผืดรัดตัว เข้าทรงเร็ว ไม่ต้องรอนาน

3. Insertion Sleeve Technique เน้นแผลเล็ก ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ


การเสริมหน้าอก Triple Plane Mini-Lifting Technique คืออะไร?

เทคนิค Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) หรือการวางซิลิโคนแบบกึ่งใต้กล้ามเนื้อ เป็นการผสานข้อดีของการเสริมหน้าอกทั้งแบบเหนือและใต้กล้ามเนื้อเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวที่คุณหมอปิยะพัฒนามาจากการวางซิลิโคนแบบ Dual Plane โดยวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อบางส่วนเพื่อให้ด้านบนดูเรียบเนียน ส่วนด้านล่างอยู่เหนือกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความโค้งเว้าอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คือหน้าอกสวยชิด เนียนเรียบ มองไม่เห็นขอบซิลิโคน เคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงการเกิดพังผืดและปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยในอนาคต

การเสริมหน้าอกแบบ Triple Plane Mini-Lifting Technique

การเสริมหน้าอกแบบ Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) ไม่เพียงช่วยให้หน้าอกชิดและมีวอลลุ่ม แต่ยังช่วยยกกระชับหน้าอกในกรณีที่หย่อนคล้อยเล็กน้อย โดยไม่ต้องผ่าตัดยกกระชับเพิ่มเติม ข้อดีของเทคนิคนี้ ได้แก่:
• เพิ่มวอลลุ่มและเนินอกให้ชัดเจน
• ตำแหน่งหน้าอกสวย ไม่หย่อนคล้อย
• ร่องอกชัดเจนและทรงหน้าอกเป็นธรรมชาติ
• แผลเล็กและรอยแผลเป็นน้อยกว่าการเสริมแบบทั่วไป
• รองรับน้ำหนักหน้าอกได้ดี ลดความเสี่ยงหย่อนคล้อยในอนาคต

ใครเหมาะกับการเสริมหน้าอกแบบ Triple Plane Mini-Lifting Technique

เทคนิค Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) เหมาะสำหรับการเสริมหน้าอกทั่วไปและยังสามารถแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยจากการคลอดบุตร การให้นมบุตร การลดน้ำหนัก หรือความชราตามธรรมชาติ โดยช่วยวางซิลิโคนให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เสริมส่วนล่างของเต้านมให้ดูเต็มและเป็นธรรมชาติ แม้จะไม่สามารถทดแทนการยกกระชับได้ในกรณีหย่อนคล้อยรุนแรง แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง


การเสริมหน้าอกด้วย Muscle Relaxant คืออะไร?

การเสริมหน้าอกด้วย Muscle Relaxant เป็นเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เนินอกชัด และลดความเจ็บหลังผ่าตัด โดยฉีด Muscle Relaxant เข้าสู่กล้ามเนื้อหน้าอกก่อนวางซิลิโคน เพื่อยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อที่อาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อนตำแหน่ง ช่วยให้ซิลิโคนเข้าที่เร็วขึ้นและลดอาการเจ็บในช่วงพักฟื้น เทคนิคนี้มักใช้ร่วมกับ Triple Plane Mini-Lifting Technique (Advanced Dual Plane Subfascial) เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาซิลิโคนเลื่อนตำแหน่งและเพิ่มความมั่นใจให้คนไข้ในระยะยาว.

ประโยชน์ของการเสริมหน้าอกด้วย Muscle Relaxant

Muscle Relaxant เป็นสารที่นิยมใช้ในวงการแพทย์ความงามเพื่อคลายกล้ามเนื้อและลดริ้วรอย คุณหมอปิยะได้นำคุณสมบัตินี้มาพัฒนาการเสริมหน้าอก โดยใช้ Muscle-Relaxant เพื่อช่วยคลายการหดตัวของกล้ามเนื้อหลังการผ่าตัด ส่งผลให้:
• ลดอาการเจ็บปวดและความไม่สบายหลังผ่าตัด
• ลดความจำเป็นในการใช้ยาแก้ปวด
• เร่งระยะเวลาการพักฟื้น ให้กลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น
• ช่วยให้ซิลิโคนเข้าที่เร็วขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
• มอบผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
• ลดโอกาสการเกิดพังผืดรัดตัว


การเสริมหน้าอกเทคนิค Insertion Sleeve คืออะไร?

เทคนิคการเสริมหน้าอกแบบ Insertion Sleeve เป็นนวัตกรรมที่ใช้กรวยปลอดเชื้อ เนื้อสัมผัสอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น ช่วยลดขนาดแผลผ่าตัด ลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อ และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ซิลิโคนจะไม่สัมผัสผิวหนังโดยตรง ทำให้วางตำแหน่งได้แม่นยำ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น.

เทคนิคการเสริมหน้าอกแบบ Insertion Sleeve มีวิธีการอย่างไร

ศัลยแพทย์จะเริ่มขั้นตอนโดยการเปิดแผลเพื่อใส่ซิลิโคนบนร่างกายของคนไข้ โดยมีหลายช่องทาง ได้แก่ ...
- บริเวณใต้ราวนม: อาจมีแผลเป็นเล็กน้อยเป็นรอยผ่าบริเวณใต้ราวนม แต่เป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็นเพราะธรรมชาติของเต้านมจะมีความหย่อนลงเล็กน้อยตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ปิดรอยแผลเป็นเอาไว้
- บริเวณปานนม: มีแผลเป็นเล็กน้อยหรืออาจไม่สังเกตเห็นเลย แต่มีความละเอียดมากกว่า จึงทำให้การผ่าตัดยากกว่า
- บริเวณใต้รักแร้: เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากให้มีแผลเป็นใต้ราวนม แต่การผ่าตัดค่อนข้างต้องอาศัยความชำนาญสูง และการดูแลรักษามีความซับซ้อนมากกว่าการผ่าตัดใต้ราวนม

หลังจากนั้น ศัลยแพทย์จะสอดกรวยใส่ซิลิโคนไปที่บริเวณแผลที่เปิดในตำแหน่งที่เหมาะสม และผู้ช่วยศัลยแพทย์จะนำซิลิโคนสอดเข้าไปผ่านกรวยด้านบน โดยศัลยแพทย์จะสอดใส่ซิลิโคนผ่านกรวยนี้ด้วยการบีบจนซิลิโคนเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ

เทคนิคการเสริมหน้าอกแบบ Insertion Sleeve มีข้อดีอย่างไร

  1. ช่วยให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลง
  2. ลดอัตราการติดเชื้อ เนื่องจากแพทย์จะไม่ได้สัมผัสซิลิโคนเลย และกรวยใส่ซิลิโคน 1 ชิ้นจะใช้เพียง 1 ครั้งต่อการผ่าตัดเท่านั้น ช่วยลดการปนเปื้อนที่ซิลิโคน ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ รวมไปถึงลดการเกิดผังผืดในอนาคตด้วย
  3. ลดการสัมผัสซิลิโคน ทำให้ซิลิโคนไม่สัมผัสโดนอากาศนาน
  4. ลดการเสียดสีระหว่างซิลิโคนกับบาดแผล
  5. บอบช้ำน้อย ฟื้นตัวเร็ว เนื่องจากขนาดแผลที่เล็กลง จึงทำให้การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อบริเวณแผลน้อยลง ทำให้การฟื้นตัวไวขึ้นและลดอาการอักเสบของแผลด้วย
  6. ระยะเวลาในการผ่าตัดน้อยลง ช่วยให้การผ่าตัดใช้เวลาเร็วขึ้น เนื่องจากการใช้กรวยใส่ซิลิโคนจะทำให้แพทย์ไม่ต้องใช้เวลาอยู่กับการใส่ซิลิโคนนาน ทำให้คนไข้อยู่ในสภาวะดมยาสลบสั้นลง
  7. ยืดอายุของซิลิโคน การใช้กรวยใส่ซิลิโคนทำให้แพทย์ไม่ต้องใช้แรงบีบตัวซิลิโคนโดยตรง ทำให้ลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อผิวซิลิโคน

 

VECTRA 3D เทคโนโลยีสแกนเนอร์สุดล้ำ US FDA: ตัวช่วยในการสร้างหน้าอกสวยเป็นธรรมชาติ

VECTRA 3D Simulator เป็นเทคโนโลยีจำลองรูปร่าง 3 มิติหนึ่งเดียวในไทย ที่ช่วยให้คนไข้เห็นภาพผลลัพธ์หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกได้อย่างชัดเจน สามารถปรับขนาดและรูปทรงตามความต้องการ ช่วยลดความกังวลเรื่องผลลัพธ์ไม่ตรงใจ ด้วยความแม่นยำเกือบ 100% ระบบจะจับภาพ 3 ครั้งเพื่อสร้างภาพ 3 มิติที่มองเห็นได้จากหลายมุมมอง ช่วยวางแผนการรักษาให้ตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุด ทั้งนี้ การใช้ VECTRA 3D ยังต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์เพื่อให้ผลลัพธ์สวยงามและตรงใจคนไข้สูงสุด

ตำแหน่งและบริเวณในการผ่าตัดเสริมหน้าอก

การผ่าตัดเสริมหน้าอก ในปัจจุบันสามารถทำได้ใน 3 บริเวณหลักๆ ขึ้นอยู่กับขนาดซิลิโคนเสริมหน้าอก ขนาดหน้าอกเดิมของผู้รับการรักษา ซึ่งศัลยแพทย์จะให้คำปรึกษาว่าว่าตำแหน่งใดที่เหมาะสม โดยมีตัวเลือกดังต่อไปนี้

  1. ผ่าตัดใต้ราวนม (Inframammary Technique) อาจมีแผลเป็นเล็กน้อยเป็นรอยผ่า แต่เป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็นนัก เพราะธรรมชาติของเต้านมจะมีความหย่อนลงเล็กน้อยตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ปิดรอยแผลเป็นเอาไว้
  2. ผ่าตัดบริเวณปานนม (Periareolar Technique) มีแผลเป็นเล็กน้อยหรืออาจไม่สังเกตเห็นเลย แต่มีความละเอียดมากกว่า
  3. ผ่าตัดใต้รักแร้ (Transaxillary Technique) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากให้มีแผลเป็นใต้ราวนม แต่การผ่าตัดค่อนข้างต้องอาศัยความชำนาญสูง ต้องใช้การส่องกล้องระหว่างการเสริมหน้าอก ดูแลรักษายากกว่าผ่าตัดใต้ราวนม

ข้อควรปฏิบัติในการเข้าารับการผ่าตัดหลังเสริมหน้าอกทคนิคพิเศษกับคุณหมอปิยะ
 
ก่อนการรักษา
หลังการรักษา

แพคเกจการเสริมหน้าอกเทคนิคพิเศษกับคุณหมอปิยะ

- ซิลิโคนเสริมหน้าอกระดับพรีเมี่ยม

- ค่าใช้จ่ายสำหรับห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้นในวอร์ด Prestige ระดับ Platinum / Gold A ในโรงพยาบาลเครือสมิติเวชและพญาไท

- อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์

- ยาทานก่อนการผ่าตัด การดมยาสลบ และยาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์

- ค่าธรรมเนียมวิชาชีพ (ศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ พยาบาล)

- การดูแลหลังการผ่าตัดได้แก่การนวดหน้าอกและการฉายแสง Soft Laser เพื่อลดอาการบวมและช่วยการสมานแผล

- โปรแกรมการตรวจร่างกายในห้องปฏิบัติการก่อนการผ่าตัดได้แก่

คติที่ยึดมั่นในการทำงานในการเสริมหน้าอก

   คติของหมอ คือ หมอมองตัวเองเป็น 3 คนในคนเดียวกัน คือ 1. ที่ปรึกษาด้านความงาม 2. ศิลปินผู้รังสรรออกแบบ และ 3. ศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญ โดยคตินี้เป็นสิ่งที่หมอยึดมั่นมาตลอดในการทำงานเพื่อให้คนไข้ที่เข้ามาปรึกษากลับบ้านไปพร้อมได้รับสิ่งที่ดีที่สุด โดยหมอจะพิจารณาว่าสิ่งที่คนไข้ต้องการคืออะไร สรีระคนไข้เป็นอย่างไร แล้วเราสามารถไปถึงความต้องการของคนไข้ได้อย่างไรบนพื้นฐานของความเป็นไปได้ที่ยังทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูดี สวยงามและเป็นธรรมชาติ 
    และสิ่งสำคัญสุดท้ายที่หมออยากจะทิ้งท้ายไว้คือ “ความสวยงามต้องเคียงคู่กับความปลอดภัยเสมอ” ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามกับร่างกายของเรา ไม่เพียงแต่การทำสัลยกรรมหน้าอกเท่านั้น แต่รวมถึงหัตถการอื่นๆ ด้วย เราควรนึกถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรกทั้งในแง่ของสถานที่ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ในทุกส่วนที่จะเข้ามาดูแลเรา ดังนั้นความปลอดภัยต้องมาเคียงคู่กับความสวยงามอยู่เสมอครับ

 

ผู้เขียน:
นพ.ปิยะ รังรักษ์ศิริ หรือ คุณหมอปิยะ จาก Nida Esth' International

ศัลยแพทย์พลาสติกในประเทศไทย
ศัลยแพทย์ตกแต่งและศัลยกรรมตกแต่งที่ผ่านการรับรองจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
 
สมาชิกภาพ:
  • Member of Thai Society of Plastic and Reconstructive Surgeons of Thailand
  • Member of Thai Society of Aesthetic Plastic Surgeons of Thailand
  • Member of International Society of Aesthetic Plastic Surgery (ISAPS )
  • Member of American Society of Plastic Surgeons
ประวัติการศึกษา:
  • แพทยศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • คณะศัลยศาสตร์ทั่วไป โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ภาควิชาศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประสบการณ์การทำงาน
  • ที่ปรึกษาและศัลยแพทย์ประจำที่ Nida Esth' International (2013-ปัจจุบัน)
  • ศัลยแพทย์ แผนกศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ (2545-2556)
  • วิทยากรพิเศษและวิทยากรการประชุมทางการแพทย์นานาชาติ ณ โรงแรมเอเชีย ปี 2553
  • วิทยากรพิเศษและวิทยากรการประชุมทางการแพทย์นานาชาติ ณ โรงแรมเอเชีย ปี 2556
  • วิทยากรพิเศษและวิทยากรการประชุมทางการแพทย์นานาชาติที่ประเทศสิงคโปร์
  • วิทยากรพิเศษและวิทยากรในการประชุมทางการแพทย์นานาชาติที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
รางวัลที่ได้รับ

Global Health Asia Pacific 2023 ในหมวดหมู่คลินิกความงามพร้อมด้วยรางวัล

  • คลินิกเลเซอร์และศัลยกรรมตกแต่งขั้นสูงแห่งปีในเอเชียแปซิฟิก
  • คลินิกปลูกผมแบบไม่ผ่าตัดที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียแปซิฟิก

HELLO! Beauty Awards 2022 ในหมวดหมู่ Editor's Choice พร้อมด้วยรางวัล

  • ศูนย์ศัลยกรรมความงามที่น่าเชื่อถือที่สุดและผู้นำด้านเทคโนโลยีเลเซอร์ความงาม

168AsiaTopTen ในปี 2021-2023 รวม 2 รางวัล

  • อันดับ 1 คลินิกเสริมหน้าอกที่ดีที่สุด
  • อันดับ 1 คลินิกปลูกผมที่มีผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากที่สุด

หลังเสริมหน้กอกเทคนิคพิเศษกับคุณหมอปิยะสามารถให้นมบุตรได้หรือไม่ ?

สามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ

หลังเสริมหน้าอกเทคนิคพิเศษกับคุณหมอปิยะ ต้องพักฟื้นกี่วัน ?

แล้วแต่สภาพร่างกายของคนไข้ โดยทั่วไปประมาณคือ 1 คืนในโรงพยาบาล และ 5-7 วันที่บ้านหลังออกจากโรงพยาบาล

หลังเสริมหน้าอกจำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลหรือไม่ ?

เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ต้องดมยาสลบและถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ หลังผ่าตัดคนไข้ควรได้รับการนอนพักฟื้นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 คืน

ซิลิโคนเสริมหน้าอกเทคนิคพิเศษกับคุณหมอปิยะอยู่ได้นานไหม ?

ประมาณ 10 – 15 ปีขึ้นไป