เสริมหน้าอกแบบ Hybrid

ได้ทั้งคัพ ได้ทั้งเนิน อกสวยด้วย Hybrid 

หนักอกหนักใจกับปัญหาหน้าอกเล็ก อยากเสริมแต่มีเนื้อหน้าอกน้อย พบกับทางออกของปัญหน้าหน้าอกน้อย อกห่างได้ที่นี่ค่ะ

ด้วยความไม่หยุดพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ Nida Esth’ ได้ค้นพบเทคนิคการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนและการปลูกถ่ายเซลล์ไขมันที่สามารถช่วยเสริมให้หน้าอกดูสวยขึ้นกว่าการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนทั่วไป โดยเครื่องมือพิเศษและเทคนิควิธีการของด็อกเตอร์ Patrick tonnard และ varpelle ซึ่งเป็นมือหนึ่งของประเทศของทวีปยุโรปในด้านการปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ทำให้ได้ลักษณะของทรวงอกที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด เนื่องจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนนั้นรูปทรงที่ออกมาจะสวยงามเป็นธรรมชาติหรือไม่ขึ้นกับลักษณะทรวงอกเดิมของคนไข้ที่มีอยู่

การผสมผสานเป็นแบบ hybrid จะช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดให้ดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก เช่นในคนที่ไม่มีเนินเลย การใช้ซิลิโคนเสริมหน้าอกแล้วปลูกถ่ายเซลล์ไขมันบริเวณเนินอก จะช่วยให้มีเนินที่ดูเป็นธรรมชาติหรือในกรณีที่ไม่มีเนื้อเลย การเสริมหน้าอกจะทำให้ดูอกห่างดังนั้นเทคนิค Breast Hybrid จะช่วยทำให้ทรวงอกเข้ามาชิดมากขึ้น หรือไม่คนที่ไม่มีเนื้อด้านล่างเลยเทคนิค Hybrid จะช่วยให้มีเนื้อคลุมซิลิโคนทำให้สัมผัสแล้วดูเป็นธรรมชาติจับแล้วไม่พบขอบของซิลิโคนเสริมหน้าอก

การเสริมหน้าอกแบบ Hybrid คืออะไร

การเสริมหน้าอกแบบไฮบริดเป็นศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่ใช้ implant ที่เป็นซิลิโคนร่วมกับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากไขมันของตนเอง ทำให้ดึงข้อดีของทั้ง 2 วิธีมารวมเข้าไว้ด้วยกัน การปลูกถ่ายเซลล์ไขมันของตนเอง สามารถเพิ่มความหนาของผิวหนังบริเวณหน้าอกและเนื้อเยื่อเต้านม ทำให้การเสริมหน้าอกด้วย implant มองดูและสัมผัสเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ไม่คล้ายกับการยัดลูกบอลเข้าไป ลดโอกาสการมองเห็นเป็นรอยพับคลื่น (implant rippling) แต่หากเสริมหน้าอกด้วยเซลล์ไขมันของตัวเองเพียงอย่างเดียวอาจพบปัญหา เมื่อเวลาผ่านไปเซลล์ไขมันอาจถูกดูดซึมทำให้ปริมาตรหายไป ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้าอกในรายที่เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองเพื่อป้องกันการหายของเซลล์ไขมัน การเสริมหน้าอกแบบHybrid จึงเป็นการผสมผสานข้อดีและลดข้อจำกัดของการใช้ implant ซิลิโคนและเซลล์ไขมันในการเสริมหน้าอกเข้าไว้ด้วยกัน

ทำไมถึงต้องเลือกทำหน้าอกที่ Nida Esth Clinic 

• ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ตกแต่ง นายแพทย์ปิยะ รังรักษ์ศิริ ที่มีเทคนิคเฉพาะในการทำ ศัลยกรรมหน้าอก และมีประสบการณ์มากว่า 19 ปี
• มีเจ้าหน้าที่วิสัญญีแพทย์ และพยาบาลชั้นนำที่มีประสบการณ์ในการดูแลคนไข้ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
• มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น มีเครื่อง Vectra 3D ที่สามารถจำลองภาพสามมิติของคนไข้ ว่าควรเสริมแบบไหนแล้วผลลัพธ์จะออกมาแบบใด
• ใช้ซิลิโคนเกรดที่ดีที่สุดได้มาตรฐาน จากอเมริกา ซิลิโคนจะถูกเลือกมาเฉพาะบุคคลเท่านั้น พร้อมซีเรียลนัมเบอร์
• หลังทำการเสริมหน้าอกคุณจะได้รับการดูแลจากทีมพยาบาลมืออาชีพทั้งการสอนนวดหน้าอกและการดูแลแผลหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกให้แผลหายเร็วขึ้น

การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองเหมาะสำหรับ

• คนไข้ที่มีขนาดเต้านมเล็กมาก
• ผู้ที่เคยเสริมหน้าอกด้วย implant และพอใจกับ texture ของ implant แต่ต้องการแก้ไขและอยากให้ดูและสัมผัสเป็นธรรมชาติมากขึ้น
• ผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกให้มีขนาดใหญ่และแลดูเป็นธรรมชาติในเวลาเดียวกัน

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบไฮบริด ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก

• การดูดไขมัน (liposuction) จากบริเวณที่ต้องการ เพื่อนำไปสกัดและแยกสเต็มเซลล์จากไขมัน
• การเสริมหน้าอกด้วย implant ซิลิโคนและสเต็มเซลล์จากไขมันที่แยกมาได้

ระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัด  4 - 5 ชั่วโมง

แนวรอยการผ่าตัด

• การเสริมหน้าอกอาจทำการผ่าตัดบริเวณรอบวงปานนม (periareolar) หรือใต้รักแร้ (transaxillary) หรือแนวขวางตามแนวรอยพับของฐานนม (inframammary)
• บริเวณดูดไขมัน (liposuction)

ระยะเวลาพักฟื้น: 3-5 วัน

ระยะเวลาการตัดไหม: 7-10 วันภายหลังการผ่าตัด

ข้อควรปฏิบัติก่อนการผ่าตัด

• งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัด

ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัด

• ยืดบริเวณผ่าตัดบ่อยครั้งภายใน 1 เดือนหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันการเกิดพังผืดบริเวณรักแร้ในกรณีแผลผ่าตัดเข้าทางรักแร้
• ควรงดการนวดหรือการประคบด้วยความอุ่นในช่วง 1 เดือนหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันการหายไปของไขมัน
• ควรงดสูบบุหรี่ และการบริโภคคอลลาเจนและวิตามินซีในช่วง 3 เดือนหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันการเกิดแคปซูล
• ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เพื่อลดการดูดซึมกลับของไขมัน

Surgery Package

• Implants and fat transfer procedure for breast augmentation 
• Hospital accommodations 
• OR and recovery room charges
• Medical equipment and supplies
• Preoperative routine lab test
• Pre op medicines, anesthesia, medical gas
• Professional fees (surgeons, anesthesiologist, nurses)
• Post op care
• Transportation (hotel-hospital-hotel)
• Mobile SIM card