ที่ศูนย์การแพทย์ Nida Esth’ ผู้นำศูนย์ปลูกผมด้วยเลเซอร์
ที่ครบวงจรที่สุดแบบไม่ต้องผ่าตัด
โดยการปลูกผมด้วยเซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ต้องผ่าตัด เพื่อผมใหม่ที่ดูเป็นธรรมชาติ สุขภาพดี และหนาขึ้น
ไม่ต้องผ่าตัด • ไม่ต้องกินยา • ไม่เสื่อมสมรรถภาพ • ไม่ต้องโกนผม • ไม่ต้องพักฟื้น
พร้อมกับ
“ผมใหม่ที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง”
ในปัจจุบันเรารักษาปัญหาผมร่วง ผมบางได้โดยไม่ต้องผ่าตัดได้หรือไม่ คำตอบคือ 'ได้' ต้องขอบคุณนายแพทย์ ปิยะ รังรักษ์ศิริ หรือ ‘หมอปิยะ’ ศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภาแห่งประเทศไทย ซึ่งท่านได้พัฒนาวิธีการปลูกผมแบบใหม่โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดและรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิดทำให้ผมงอกขึ้นใหม่ตามธรรมชาติ โดยไม่รู้สึกเจ็บหรือเกิดแผลเป็น และสามารถรักษาผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากปัจจัยทางพันธุกรรมหรือฮอร์โมนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังพบว่าการปลูกผมแบบไม่ผ่าตัดนี้ช่วยให้คนไข้หลายรายที่ Nida Esth' ดูอ่อนวัยขึ้น ทำให้พวกเขามีความมั่นใจและมีสุขภาวะทางจิตที่ดีขึ้น
วิธีการที่รู้จักกันในชื่อ UR Cell Hair MicroTransplant+ พัฒนาโดย ‘หมอปิยะ’ ผู้ซึ่งนำเทคนิคการเพิ่มจำนวนเส้นผมแบบยุโรปมาผสานกับเทคนิคการเพิ่มความหนาของเส้นผมจากญี่ปุ่น เทคนิคนี้ได้รับการสืบทอดมาจากศาสตราจารย์ ดร.ฟุกุโอกะ ฮิโรทาโร่ ซึ่งเป็นที่เคารพอย่างสูงในหมู่ศัลยแพทย์ตกแต่งของญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักในฐานะบิดาแห่งการปลูกผมขั้นสูงโดยใช้เซลล์ของญี่ปุ่น การรวมกันของทั้งสองวิธีนี้ทำให้เป็นการปลูกผมที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบันโดยไม่ต้องผ่าตัด หมอปิยะได้นำข้อมูลที่กล่าวถึงข้างต้นมาพัฒนาต่อจนกลายเป็นการปลูกผมที่ไม่ต้องผ่าตัดอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการเปิดบทใหม่ในการรักษาผมร่วงโดยการใช้เซลล์ต้นกำเนิด ผลจากความสามารถในการปลูกผมใหม่ได้โดยไม่ต้องผ่าตัดได้ดึงดูดความสนใจจากคนไข้จำนวนมากจากทั่วประเทศไทยและต่างประเทศที่มารับการรักษาในจำนวนมาก จนได้รับการรับรองและการันตีด้วยรางวัลระดับภูมิภาคจาก 168AsiaTopTen ในฐานะ “ศูนย์ปลูกผมที่มีประสิทธิภาพที่สุด (The Most Effective Hair Transplantation Centre)” ติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี (พ.ศ. 2564 - 2565)
วันนี้เราจะเจาะลึกเรื่องประสิทธิภาพในการปลูกผมด้วยเทคนิค UR Cell Hair Micro Transplant กับหมอปิยะ ว่าจริง ๆ แล้วคืออะไรและทำงานอย่างไร รวมถึงเราจะมีแขกรับเชิญพิเศษ ‘มิสเตอร์ดี’ (นามสมมติ) – คนไข้จริงจากฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้ที่เข้ารับการปลูกผมด้วยเทคนิค UR Cell Hair Micro Transplant+ จะมาพูดคุยเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่น่าประทับใจของเขาที่ Nida Esth’ Medical Centre ซึ่งเป็นสถานเสริมความงามครบวงจรที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “ศูนย์การแพทย์ที่เชื่อถือได้ในด้านผลลัพธ์การศัลยกรรมความงามจากคนไข้ทั่วโลกและเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีเลเซอร์ความงาม (The Medical Centre Trusted for Cosmetic Surgery Results from Global Patients and the World Leader in Aesthetic Laser Technology)“ จากบรรณาธิการของ Hello Magazine ประเทศไทย
UR Cell Hair Micro Transplant+ คือโปรแกรมการรักษาที่ใช้ “เซลล์ต้นกำเนิดจากรากผม” ซึ่งได้จากบริเวณที่มีสุขภาพดีของคนไข้ เพื่อนำเซลล์ที่มีชีวิต (Lived Cells) มาปลูกในบริเวณที่มีปัญหา โดยเซลล์ต้นกำเนิดเหล่านี้จะช่วยต้านฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในบริเวณที่มีปัญหา ทำหน้าที่เป็นตัวยับยั้งฮอร์โมนในพื้นที่เฉพาะ ดังนั้น โปรแกรมการรักษานี้จึงไม่ต้องใช้ยาเลย นอกจากนี้ การรักษายังรวมถึงการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ระดับต่ำ (Low-Level Laser Therapy) เพื่อฟื้นฟูรากผมที่ฝ่อให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีปัญหาที่แตกต่างกัน จึงได้มีการออกแบบและปรับโปรแกรมการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละท่าน เพื่อให้ตอบโจทย์ความกังวลของคนไข้ได้ดีที่สุด
“นี่คือบทใหม่ในเรื่องการรักษาปัญหาผมร่วงที่เกิดจากภาวะผมบางจากพันธุกรรม (AGA) หรือฮอร์โมนและพันธุกรรม ซึ่งเป็นการปลูกผมที่ไม่ต้องผ่าตัดที่ช่วยให้ผมหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ใช้ยาที่อาจทำให้เกิดปัญหาทางเพศ ในประเทศไทย นี่ถือเป็นวิธีการที่ล้ำสมัยที่ผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์ยุโรปในการเพิ่มจำนวนเส้นผมกับเทคนิคเฉพาะของญี่ปุ่นในการเพิ่มความหนา ซึ่งเรียกว่าการรักษาฟื้นฟูเส้นผม (Hair Regeneration Treatment) ซึ่งตอนนี้ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนที่สนใจการปลูกผม” หมอปิยะ กล่าว
“ขั้นตอนแรกเราจะทำการ ‘สะกิด’ รากผมที่แข็งแรงที่สุดจากบริเวณที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนและพันธุกรรม ประมาณ 4 - 5 ราก โดยใช้เครื่องมือพิเศษที่มีขนาดเพียง 2 มม. จากนั้น UR Cell Hair Micro Transplant+ จะใช้เทคนิคในการ ‘สกัด’ ‘เซลล์รากผม’ ของคนไข้ที่มีปัญหาผมร่วงจากบริเวณที่ยังมีเส้นผมสุขภาพดีอยู่ เพื่อให้ได้เซลล์ผมที่มีชีวิตและแข็งแรงที่สำหรับการ ‘ฝัง (Micro Transplant)’ เซลล์รากผมลงหนังศีรษะ โดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า ‘Auto Transplant (การปลูกผมด้วยเซลล์คุณเอง)’ เสริมสร้างรากผมใหม่ด้วยกระบวนการ “เซลล์ซ่อมเซลล์ (Cells-Heal-Cells)”
รากผมที่สกัดออกมาจะทำหน้าที่เป็น ‘ปัจจัยทางชีวภาพ’ เพื่อปกป้องรากผมจากฮอร์โมนเพศชายที่อาจทำให้ผมร่วงได้กระบวนการ ‘การปลูกผมแบบไมโคร (Hair Micro Transplant)’ คือการฟื้นฟูเซลล์รากผมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะผมบางจากพันธุกรรม (AGA) ให้มีความแข็งแรงขึ้น โดยการฝังเซลล์รากผมที่แข็งแรงเข้าไป ซึ่งยังช่วยปรับวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมที่ผิดปกติให้กลับเป็นปกติ ผลลัพธ์คือเส้นผมใหม่ที่เจริญเติบโตในวงจรชีวิตปกติ นอกจากนี้ยังกระตุ้นการแบ่งเซลล์รากผมและให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเซลล์รากผม” หมอปิยะ อธิบาย
ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจหลังปลูกผมด้วยเทคนิค UR Cell Hair Micro Transplant+
ชายฟิลิปปินส์วัย 42 ปีที่ประสบปัญหาจากภาวะผมบางจากพันธุกรรมเป็นเวลา 20 ปี ได้ปลูกผมด้วยเทคนิค UR Cell Hair Micro Transplant+ และจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ประทับใจในการเข้ารักษาที่ศูนย์การแพทย์ Nida Esth’ โดยให้คำชื่นชมต่อไปนี้
“ผมมีปัญหาผมบางตั้งแต่อายุ 30 ต้น ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากพันธุกรรม เพราะทั้งพ่อและพี่ชายของผมก็มีปัญหาเดียวกัน โดยปัญหาจะอยู่ที่บริเวณกระหม่อมและด้านหน้าเป็นหลัก ผมเคยทำ FUE มานานแล้ว แต่เป็นขั้นตอนที่เจ็บปวดมากและตอนนี้ยังมีรอยแผลเป็นอยู่ แม้จะผ่านมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ผมยังคงสนใจหาวิธีใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่วิธีเดิม ๆ ในการแก้ปัญหาผมร่วง และผมได้รู้จักกับเทคโนโลยีของ Nida Esth’ ผ่านทางโซเชียลมีเดียและได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ทำให้ผมสนใจการปลูกผมที่ไม่ต้องผ่าตัด เพราะส่วนตัวแล้วหลังจากความเจ็บปวดจาก FUE ผมก็เริ่มมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยา และไม่ต้องโกนผม
เมื่อผมไปที่ Nida Esth’ ครั้งแรก ผู้เชี่ยวชาญจากทีมแพทย์และผู้ช่วยแพทย์ได้อธิบายอย่างละเอียดและชัดเจนถึงขั้นตอนการรักษาและผลลัพธ์ที่คาดหวัง อีกทั้ง ผมยังได้ดูเคสต่าง ๆ และผลลัพธ์ของคนไข้ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ด้วย นอกจากนี้ บริการที่ผมได้รับจากที่นี่ทำให้ผมรู้สึกพอใจมากกับมาตรฐานการให้บริการของ Nida Esth' อีกทั้งเคสของผมค่อนข้างท้าทาย แต่พวกเขาก็ยังสามารถให้การดูแลตามที่ผมต้องการได้ แม้ว่าจะเป็นช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 ก็ตาม
ผมคาดหวังที่จะเห็นความคืบหน้าอย่างมากในปัญหาของผมที่บริเวณด้านหน้าและกระหม่อม หลังจากทำตามโปรแกรมการรักษาทั้ง 2 โปรแกรมแล้ว ผมพอใจกับผลลัพธ์ที่เห็นการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างมากทั้งสองบริเวณ และในเวลาเพียง 3 เดือนหลังจากขั้นตอนแรก ผมก็ไม่เห็นจุดที่ศีรษะล้านที่ผมกังวลอีกต่อไป
ผมขอแนะนำทุกท่านที่ประสบปัญหาผมร่วงคล้าย ๆ กับผม ให้ไปที่ Nida Esth’ เพราะคุณจะพบกับเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดซึ่งได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิผลสูง โดยเฉพาะขั้นตอนนี้ไม่เจ็บและปลอดภัย รวมไปถึงพนักงาน แพทย์ และผู้ช่วยแพทย์ให้บริการได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งไม่มีใครเทียบเท่าในกรุงเทพฯ ดังนั้น ผมไม่ลังเลที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง นอกจากนี้ ผมขอแนะนำให้คนที่มีข้อสงสัยติดต่อที่นี่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาที่อาจเหมาะสมได้ครับ”
การปลูกผมด้วยเทคนิค UR Cell Hair Micro Transplant เหมาะสำหรับใคร
• ผู้ที่ไม่ต้องการพึ่งพาวิธีการผ่าตัด
• ผู้ที่กังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา
• ผู้ที่ไม่อยากโกนผมก่อนการรักษา
• ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงตั้งแต่ระดับเล็กน้อยถึงรุนแรงจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนและพันธุกรรม
การรักษาปัญหาผมร่วงและผมบางเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ดังนั้น หมอปิยะจึงได้ลงทุนนำเข้าเทคโนโลยีที่เรียกว่า Nano Score Robotic System ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสแกนรากผมระดับเซลล์ที่ล้ำสมัยจากเยอรมนี โดยทั่วไปแล้วเทคโนโลยีนี้จะพบได้เฉพาะที่ศูนย์วิจัยทางการแพทย์แห่งชาติ ไม่ได้พบในคลินิกหรือสถาบันรักษาผมทั่วไป แต่หมอปิยะยินดีลงทุนในเทคโนโลยีนี้เพื่อการ “วิเคราะห์ปัญหาผมร่วงและการรักษาผมบาง” อย่างแม่นยำ
ด้วยการใช้ระบบ Nano Score Robotic System ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการตรวจวัดเซลล์เส้นผมที่ล้ำสมัยจากเยอรมนีที่สามารถตรวจสอบเส้นผมและหนังศีรษะในระดับเซลล์ได้อย่างละเอียด ทำให้ศูนย์การแพทย์ Nida Esth’ สามารถรับประกันความสำเร็จในการปลูกผมได้ เนื่องจากสามารถนับจำนวนเส้นผม ความหนาแน่นโดยรวมของเส้นผม อัตราส่วนของเส้นผมที่แข็งแรง จำนวนรากผม และจำนวนเส้นผมเฉลี่ยในแต่ละรูขุมขนได้ ดังนั้นจึงสามารถเปรียบเทียบผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำก่อนและหลังการรักษา
“หากคุณต้องการทราบวิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาผมร่วงและผมบางของคุณ คุณสามารถนัดหมายเพื่อเข้ารับการประเมินและวิเคราะห์ปัญหาของคุณอย่างละเอียดในระดับเซลล์ได้ เพื่อออกแบบและวางแผนการรักษาที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคลได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากที่ Nida Esth’ เรามีโปรแกรมการรักษาผมหลากหลายที่สามารถรักษาปัญหาทุกชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย”
Affiliated Hospitals