การดูดไขมันเป็นการผ่าตัดใหญ่ จำเป็นต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต
Behind Cosmetic Surgery By Dr. Piya
ยินดีต้อนรับกลับสู่ Behind Cosmetic Surgery By Dr. Piya ที่ซึ่งเราตอบคำถามเกี่ยวกับศัลยกรรมความงาม โดยหนึ่งในศัลยแพทย์ตกแต่งที่ดีที่สุดในประเทศไทย **นพ.ปิยะ รังรักษ์ศิริ** หรือ **หมอปิยะ** ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับการรับรองจากสมาคมศัลยกรรมตกแต่งเสริมความงามนานาชาติ (ISAP)
ที่Nida Esth' International ศูนย์เลเซอร์และศัลยกรรมความงามระดับพรีเมียมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เหล่าคนดัง ราชวงศ์ และบุคคลชั้นนำจากทั่วโลกให้ความไว้วางใจ ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ล่าสุดและเทคนิคการผ่าตัดแบบเซลลูลาร์ที่ไม่เหมือนใคร
เรายังได้รับรางวัลจาก Global Health Asia Pacific ในปี 2023 ในฐานะ ‘คลินิกเลเซอร์และศัลยกรรมพลาสติกที่ล้ำสมัยแห่งปีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก’
รวมถึงรางวัลระดับประเทศจาก Hello Magazine ประเทศไทยในปี 2022 ในฐานะ ‘ศูนย์การแพทย์ที่ได้รับความไว้วางใจในผลลัพธ์ศัลยกรรมความงามจากผู้ป่วยทั่วโลก และผู้นำด้านเทคโนโลยีเลเซอร์ความงามระดับโลก’
วันนี้เราจะมาต่อกันในหัวข้อจากบทความก่อนหน้า ‘7 Essential Things to Know Before Getting the Best Liposuction in Bangkok Part 1/2’เพื่อมาตอบคำถามเพิ่มเติมที่คนไข้ของหมอสอบถามเกี่ยวกับการ ดูดไขมันที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นทางเลือกในการสร้างรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ หากคุณยังไม่ได้อ่านบทความแรก สามารถคลิกที่ลิงก์ด้านบนเพื่อไม่พลาดรายละเอียดสำคัญค่ะ!
คนไข้บางคนมีความคาดหวังที่ไม่สมจริงเกี่ยวกับการดูดไขมัน และเข้าใจผิดว่าจะได้ผิวที่เรียบเนียนสมบูรณ์แบบหลังการดูดไขมัน แต่คำตอบคือ ‘ไม่ใช่’คนไข้หลายคนยังสับสนระหว่างเซลลูไลท์ กับไขมันส่วนเกิน ซึ่งสามารถกำจัดได้ด้วยการดูดไขมัน วันนี้หมอจะอธิบายว่าเซลลูไลท์คืออะไรและทำไมการดูดไขมันถึงไม่สามารถรักษาเซลลูไลท์ได้อย่างสมบูรณ์
เซลลูไลท์ เป็นคำที่ใช้เรียกกระเปาะของไขมันที่ถูกล้อมรอบด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่อยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อเซลล์ไขมันเติบโตขึ้น พื้นที่ที่กักเก็บไขมันเหล่านั้นจะเริ่มแออัด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (fibrous septae) จะดึงผิวหนังลง ทำให้ผิวเกิดลักษณะเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน หรือเป็นรอยบุ๋ม เซลลูไลท์มักพบบ่อยในบริเวณต้นขา สะโพก ก้น และหน้าท้อง โดยประมาณ 80-90% ของผู้หญิงจะพัฒนาเซลลูไลท์ในบางช่วงหลังวัยเจริญพันธุ์ ขณะที่ผู้ชายเพียง 10% เท่านั้นที่พัฒนาเซลลูไลท์
การจัดระดับของเซลลูไลท์ มีดังแสดงในภาพด้านล่าง ถึงแม้ว่า สาเหตุหลักของเซลลูไลท์ จะยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน แต่น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ฮอร์โมน พันธุกรรม กระบวนการชรา การสูบบุหรี่ อาหาร และไลฟ์สไตล์ ล้วนมีบทบาทสำคัญ หากการดูดไขมันสามารถกำจัดเซลลูไลท์ได้อย่างสมบูรณ์ มันจะเป็นที่ต้องการอย่างมาก เนื่องจากมีข้อได้เปรียบสองประการคือการกำจัดทั้งไขมันและเซลลูไลท์ในคราวเดียว แต่น่าเสียดายที่นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ข้อมูลจาก American Academy of Dermatology Association ในหัวข้อ "Cellulite treatment: What really works?" ระบุว่า "การรักษาที่เน้นกำจัดไขมันเพียงอย่างเดียวมักไม่มีผลกระทบต่อเซลลูไลท์ จำเป็นต้องใช้กระบวนการเฉพาะทางเพื่อเปลี่ยนลักษณะของเซลลูไลท์ให้ดีขึ้น"
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าการดูดไขมันจะไม่มีประโยชน์ในด้านศัลยกรรมตกแต่ง การดูดไขมันยังคงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่คนไข้ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการปรับรูปร่างและเพิ่มความสมส่วนของร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่อาจช่วยลดความเด่นชัดของเซลลูไลท์ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะกระเปาะไขมันที่ก่อให้เกิดเซลลูไลท์นั้นอยู่ในชั้นบนของผิวหนัง ใกล้กับชั้นหนังแท้ (Dermis Layer) ในขณะที่การดูดไขมันทุกรูปแบบสามารถกำจัดไขมันได้เฉพาะในชั้นใต้ผิวหนัง (Deep Subcutaneous Layer) เท่านั้น
ในมุมมองส่วนตัวของหมอ ไม่แนะนำให้ใช้การดูดไขมันแบบดั้งเดิมเพื่อกำจัดเซลลูไลท์ เพราะอาจทำให้เซลลูไลท์ดูเด่นชัดขึ้น เนื่องจากการดูดไขมันแบบดั้งเดิมนั้นถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินในชั้นลึกของใต้ผิวหนังเท่านั้น!
NEW Option: การลดเซลลูไลท์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วย Fotona TightSculpting®
มีวิธีการรักษาเซลลูไลท์ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่นวดด้วยมือไปจนถึงการนวดด้วยคลื่นวิทยุ (RF) และอัลตราซาวด์ แต่เนื่องจาก Nida Esth’ ได้รับรางวัลด้านเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจาก Global Health Asia Pacific Award 2023 หมอจึงขอแนะนำทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการลดเซลลูไลท์ในกรุงเทพฯ นั่นคือ Fotona TightSculpting®
Fotona TightSculpting® เป็นเทคนิคเลเซอร์แบบไม่รุกรานที่ใช้พลังงานเลเซอร์แบบคู่ (Dual-Wavelength Laser) เพื่อปรับแต่งรูปร่าง ยกกระชับ และทำให้ผิวเรียบเนียนในทุกบริเวณของร่างกาย ด้วยระบบพลังงานเลเซอร์คู่ที่ปรับแต่งได้เฉพาะบุคคล เทคโนโลยีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถกำจัดเซลล์ไขมัน (Adipose Tissue) ทั้งในชั้นผิวบนและชั้นผิวล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเพิ่มการไหลเวียนโลหิต เพื่อผลลัพธ์ที่ช่วยลดเซลลูไลท์ กระชับรูปร่าง และทำให้ผิวเนียนเรียบ
ด้วยระบบการสแกนเลเซอร์ขั้นสูงที่ควบคุมโดย AI การรักษานี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้การฉีดใดๆ หมดกังวลเรื่องความเจ็บปวดหรือรอยแผลได้เลย หมอแนะนำให้ทำการรักษา 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างแต่ละครั้งประมาณ 1 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานค่ะ!
การดูดไขมันอาจมีข้อจำกัดในการกำจัดไขมันส่วนเกินในบริเวณเล็กๆ ที่มีความโค้ง เช่น ใต้คางและแนวกราม เนื่องจากอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่พึงพอใจ สาเหตุเกิดจากการใช้ปลายโลหะแข็งขนาดใหญ่ระหว่างกระบวนการ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิด การบาดเจ็บเชิงกล (Mechanical Trauma) ความเสียหายต่อเส้นประสาท และรอยช้ำ นอกจากนี้ยังมีโอกาสสูงที่จะทำให้ผิวบริเวณที่รักษาเป็นคลื่น ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์มากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ปลายโลหะแข็งอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดที่ยากจะทนได้ระหว่างการรักษา ดังนั้น หากต้องการปรับรูปร่างบริเวณคอและแนวกรามให้ดูชัดเจนและคมชัดขึ้น พร้อมผิวที่กระชับและเรียบเนียน แนะนำให้เลือกวิธีการรักษาแบบเลเซอร์ที่เป็นทางเลือกแทนค่ะ!
NEW Option: การลดไขมันบริเวณเล็กแบบไม่ผ่าตัดที่ดีที่สุด: Y-LOCK 360 Degree
หากคุณต้องการสร้างแนวกรามที่ชัดเจนและโดดเด่นโดยไม่ต้องผ่าตัด หมอได้พัฒนาโปรแกรมที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยจากสหรัฐอเมริกาจำนวน 4 โปรแกรม ซึ่งสามารถทำงานในระดับความลึกของชั้นผิวที่แตกต่างกันได้ถึง 4 ระดับในแต่ละบริเวณ ช่วยปรับรูปหน้าได้ในมุมมอง 360 องศา แก้ไขปัญหาโครงหน้าและริ้วรอยแห่งวัย สร้างแนวกรามที่โดดเด่นในขณะที่ยังคงความกระชับและอ่อนเยาว์ของผิว สำหรับการรักษานี้ หมอแนะนำ 2 โหมดจากทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่:
Double Lock: ด้วย Define Lock
- กระชับแนวกรามที่ความลึก 5 มม. ใต้ชั้นผิว ด้วยเทคนิค MicroLipo
- ช่วยสลายไขมันบริเวณแนวกรามและใต้คาง เผยแนวกรามที่สมบูรณ์แบบที่ซ่อนอยู่ใต้ชั้นไขมัน
Triple Lock: ด้วย Forma Lock
- พลังงานที่เจาะลึกเพื่อสร้างแนวกรามที่ชัดเจนในชั้นผิวที่ลึก 4 มม. ด้วยเทคนิค MicroLift
- ยกกระชับโครงสร้างใบหน้าทั้งใน Y-zone ส่วนบนและล่างผ่านบริเวณลำคอ
- สามารถใช้ได้แม้ในบริเวณที่บอบบาง เช่น รอบดวงตา
โปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยสร้างแนวกรามและใบหน้าที่สมบูรณ์แบบ พร้อมทั้งคืนความกระชับและอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ!
- Read more: Y-LOCK 360 degree
คนไข้ส่วนใหญ่มักเชื่อว่าการทำหัตถการภายใต้ยาชาเฉพาะที่นั้นปลอดภัยและทำได้ง่าย แต่ความจริงแล้ว ไม่เป็นความจริงทั้งหมด ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับการรับรองจากบอร์ด รวมถึงตัวหมอเอง ต่างถือว่าการดูดไขมันเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องดำเนินการภายใต้การใช้ยาสลบ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของคนไข้
เนื่องจากการดูดไขมันแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำให้ไขมันละลายเป็นน้ำมันได้ เราจึงต้องสร้าง การบาดเจ็บเชิงกล (Mechanical Trauma) เพื่อให้เซลล์ไขมันแตกตัวและสามารถดูดออกได้
ในกระบวนการนี้ จำเป็นต้องใช้ปลายโลหะขนาดใหญ่เพื่อสร้างการบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมากระหว่างกระบวนการ หากใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ในกรณีนี้ จะต้องใช้ **ลิโดเคน (Lidocaine)** ในปริมาณมากเพื่อลดความเจ็บปวด ปริมาณลิโดเคนที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะพิษจากลิโดเคน (Lidocaine Intoxication) ซึ่งในบางกรณีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ
นั่นเป็นเหตุผลที่ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับการรับรองจากบอร์ดเลือกใช้การวางยาสลบ (General Anesthesia) แทน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว อีกทั้งยังช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถดำเนินการดูดไขมันได้ง่ายขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมั่นใจว่าบริเวณที่ทำการผ่าตัดจะชาอย่างสมบูรณ์
ข้อได้เปรียบหลักสำหรับคนไข้ คือสามารถทำการรักษาที่ครอบคลุมมากขึ้นในครั้งเดียว โดยสามารถกำจัดไขมันได้ในปริมาณที่มากขึ้นเมื่อดูดไขมันแบบดั้งเดิมภายใต้ยาสลบ ซึ่งหมายความว่าคนไข้สามารถมีรูปร่างที่เพรียวบางลงได้มากกว่าการใช้ยาชาเฉพาะที่ นอกจากนี้ หากคนไข้รู้สึกกังวลกับการมีสติระหว่างการผ่าตัด การวางยาสลบอาจเป็นทางเลือกที่น่าพึงพอใจกว่า
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี หมอก็พบว่าคนไข้บางรายมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถใช้ยาสลบได้เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้น ก่อนการดูดไขมันทุกครั้งจึงจำเป็นต้องมีการตรวจร่างกายเพื่อประเมินและยืนยันความปลอดภัยของคนไข้ค่ะ!
NEW Option: วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการวางยาสลบ: Robotic Fat Killer โดย SculpSure**
สำหรับผู้ที่มองหาทางเลือกในการกำจัดไขมันโดยไม่ต้องใช้ทั้งยาชาเฉพาะที่และยาสลบ แต่ยังต้องการรูปร่างที่สมส่วน หมอขอแนะนำ **Robotic Fat Killer โดย SculpSure** วิธีการนี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงและไม่ต้องใช้การวางยาสลบ
นี่คือทางเลือกแบบไม่ต้องผ่าตัดที่สามารถทดแทนการดูดไขมันได้ เมื่อเปรียบเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆ วิธีนี้มีประสิทธิภาพในการลดไขมันที่สูงกว่าและมาพร้อมคุณสมบัติที่ล้ำสมัย โดยใช้พลังงานเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1060 นาโนเมตร ยิงเข้าสู่เซลล์ไขมันในอุณหภูมิระหว่าง 42–47 องศาเซลเซียส จนกระทั่งเซลล์ไขมันเกิดความเสียหายและละลาย พลังงานเลเซอร์นี้จะทำลายไขมันส่วนเกินโดยไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง หลังจากนั้นร่างกายจะกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วผ่านระบบน้ำเหลืองและปัสสาวะ
ผลลัพธ์หลังการรักษา:
คนไข้สามารถลดไขมันในบริเวณที่ทำการรักษาได้สูงสุดถึง 25% โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่หลังคลอด ซึ่งบริเวณที่มักรักษาคือหน้าท้อง นอกจากนี้ยังสามารถลดขนาดเสื้อผ้าได้ 1-2 ไซส์ หรือกางเกงได้ 1 ไซส์ ขึ้นอยู่กับบริเวณที่รักษา
ความรู้สึกระหว่างการรักษา:
ส่วนใหญ่คนไข้จะอธิบายว่าเป็นความรู้สึก "ค่อนข้างอุ่น แต่ผ่อนคลาย" โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา หลังการรักษา ผลลัพธ์จะเริ่มปรากฏในช่วง 6 สัปดาห์ โดยการลดไขมันจะเห็นผลชัดเจนที่สุดในช่วง 12 สัปดาห์
Robotic Fat Killer โดย SculpSure จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ!
- Read more: Robotic Fat Killer by SculpSure
ดังนั้น สำหรับผู้ที่สนใจค้นหาตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อสร้างใบหน้าและรูปร่างที่สมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการ หมอยินดีอย่างยิ่งที่จะให้คำปรึกษาแบบส่วนตัวอย่างละเอียดกับ "นพ.ปิยะ" เพื่อร่วมออกแบบรูปร่างในอนาคตของคุณ ขั้นตอนสำคัญแรกในกระบวนการกำจัดไขมันด้วยเลเซอร์คือ Body Simulation Design ด้วย Vectra 3D ซึ่งเป็นการออกแบบมิติของร่างกายเพื่อจำลองภาพเสมือน 3 มิติก่อนการกำจัดไขมันด้วยพลังงานเลเซอร์ Vectra 3D ยังเป็นเทคโนโลยีเพียงหนึ่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความพิเศษเฉพาะตัวนี้
คนไข้จะได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนเดินทางข้ามเวลาเพื่อชมรูปร่างของตนเองก่อนตัดสินใจทำการรักษา Body Simulation Design ด้วย Vectra 3D เป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมในการวางแผนและออกแบบรูปร่างให้ตรงกับความต้องการและความคาดหวังของคุณค่ะ!
Author:
Dr. Piya Rungruxsiri, MD, or Dr. Piya at Nida Esth' International
Best Plastic Surgeon in Thailand
A Board- certified Plastic Surgeon of Thai Medical Council & the International Society of Aesthetic Plastic Surgery (ISAP)
Membership:
Education:
Affiliated Hospitals