การดูดไขมันเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิต
BEHIND COSMETIC SURGERY BY DR. PIYA
ยินดีต้อนรับสู่บทความล่าสุดในซีรีส์ "เบื้องหลังศัลยกรรมความงามโดย Dr. Piya" ซึ่งเราจะมาตอบคำถามทุกข้อเกี่ยวกับการศัลยกรรมความงามที่ดำเนินการโดยหนึ่งในศัลยแพทย์ตกแต่งที่ดีที่สุดในประเทศไทย "นพ.ปิยะ รังรักษ์ศิริ" หรือที่รู้จักในชื่อ Dr. Piyaศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับการรับรองจากสมาคมศัลยกรรมตกแต่งเสริมความงามนานาชาติ (ISAP) โดยที่ Nida Esth’ International ศูนย์เลเซอร์และศัลยกรรมความงามระดับพรีเมียม เป็น "จุดหมายปลายทางด้านความงามอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ที่เหล่าคนดัง ราชวงศ์ และบุคคลระดับสูงจากทั่วโลกไว้วางใจ ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ล้ำสมัยและเทคนิคการศัลยกรรมเซลลูล่าที่หาใครเปรียบไม่ได้
ด้วยเหตุนี้เอง Global Health Asia Pacific จึงมอบรางวัล ‘คลินิกเลเซอร์และศัลยกรรมพลาสติกที่ล้ำสมัยแห่งปีในเอเชียแปซิฟิก 2023’ ให้เรา รวมถึงการันตีด้วยรางวัลระดับประเทศอย่าง ‘ศูนย์การแพทย์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยทั่วโลกในผลลัพธ์การศัลยกรรม’ และได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘ผู้นำด้านเทคโนโลยีเลเซอร์ความงามระดับโลก’ โดย Hello Magazine ประเทศไทยในปี 2022
ในวันนี้ Dr. Piya ได้รวบรวมคำถามที่คนไข้มักสอบถามในช่วงการปรึกษาส่วนตัว พร้อมคำตอบสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาการ ดูดไขมันในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นทางเลือกสู่รูปร่างที่สมบูรณ์แบบ มาดูกันว่าความเห็นของ Dr. Piya คืออะไรบ้าง!
หลายคนคาดหวังว่า การดูดไขมันจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมหาศาลแต่ต้องขอยืนยันว่า “ไม่ใช่” การดูดไขมันไม่ได้เป็นคำตอบที่จะแก้ปัญหาเรื่องรูปร่างได้ทุกอย่าง และผู้ที่สนใจทำหัตถการนี้จำเป็นต้องมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผลก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะนี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต
การดูดไขมันเป็นกระบวนการผ่าตัดที่ใช้เทคนิคการดูดเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อไขมัน (adipose tissue) ออกจากบริเวณเป้าหมาย เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ก้น ต้นแขน หรือคอ รวมถึงช่วยปรับรูปร่างในบริเวณเหล่านั้น การดูดไขมันยังมีชื่อเรียกในทางการแพทย์ว่า "Lipoplasty" หรือที่เรียกกันว่า "Body Contouring"
อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักแบบครอบคลุม และไม่สามารถทดแทนกระบวนการลดน้ำหนักได้ เนื่องจาก ความหนาแน่นของไขมันต่ำกว่าน้ำอย่างมาก ไขมัน 1 ลิตรจะมีน้ำหนักน้อยกว่า 2 ปอนด์ (ประมาณ 0.9 กิโลกรัม) และสิ่งที่ถูกดูดออกมาในการดูดไขมันไม่ได้เป็นไขมันล้วนๆ สิ่งที่เรียกว่า “Aspirate”นั้นเป็นส่วนผสมของไขมันชิ้นเล็ก น้ำมัน (เนื้อหาของเซลล์ไขมันที่แตกตัว) เลือด และสารละลาย Tumescent ดังนั้นไขมันบริสุทธิ์ที่ถูกดูดออกมาจะมีน้ำหนักน้อยกว่าไขมันทั้งหมดในปริมาณเดียวกัน
หากคุณคิดว่าการดูดไขมันคือวิธีลดน้ำหนัก ต้องขอบอกว่า “คุณเข้าใจผิด”สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน จำเป็นต้องตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เช่น ภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติ หรือโรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ การรักษาที่เหมาะสมจะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารและการออกกำลังกาย นอกจากนี้ ในบางกรณีอาจมีการแนะนำการรักษาแบบผ่าตัดหรือทางการแพทย์เพิ่มเติม
แต่หากคุณต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมเฉพาะจุด และสามารถรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ได้ การดูดไขมันอาจเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับคุณ
NEW ! Option: ทางเลือกสำหรับการลดน้ำหนักที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ: โปรแกรม Slim Laser Diet ด้วย Zerona และ SlimShot ด้วย Saxenda
ในยุคปัจจุบัน การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงแค่เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย หากคุณประสบปัญหาในการควบคุมน้ำหนักตัว Nida Esth’ International มีทางออกที่ปลอดภัยสำหรับคุณ ด้วย โปรแกรม Slim Laser Diet ด้วย Zerona และ SlimShot ด้วย Saxenda เพื่อช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ผู้ป่วยหลายคนที่มาพบฉันยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของไขมันในร่างกาย ซึ่งทำให้พวกเขาเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับแนวคิดของการดูดไขมัน โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง ฉันจำเป็นต้องอธิบายให้ชัดเจนว่า สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับไขมัน 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) และ ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
• ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) หมายถึงเนื้อเยื่อไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังแต่เหนือชั้นกล้ามเนื้อ ไขมันชนิดนี้อาจมีความนุ่มหรือแน่นขึ้นอยู่กับความหนาแน่น แต่สามารถจับหรือหยิบขึ้นมาได้ง่ายด้วยนิ้วมือ แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็มักส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอก ทำให้ไม่สวยงามตามที่ต้องการ ไขมันใต้ผิวหนังมักเป็นสาเหตุหลักของไขมันส่วนเกินที่ไม่พึงประสงค์ในหลายบริเวณของร่างกาย
• ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ตั้งอยู่ลึกกว่าชั้นกล้ามเนื้อหน้าท้อง อยู่ภายในช่องท้องและล้อมรอบอวัยวะภายในต่าง ๆ โดยสามารถสังเกตได้จากลักษณะ "พุงเบียร์" ซึ่งไม่สามารถจับหรือหยิบได้ด้วยนิ้ว เนื่องจากตำแหน่งที่อยู่ลึกลงไป หน้าท้องที่มีไขมันในช่องท้องจะมีความแข็งและตึง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกแน่นมาก ผู้ที่มีไขมันในช่องท้องปริมาณมากมักถูกเรียกว่า "ผอมแต่มีพุง" (Skinny-fat) ซึ่งหมายถึงหน้าท้องที่แข็งและตึงมากแต่ปกคลุมด้วยชั้นผิวหนังที่บางมาก ไขมันในช่องท้องมักเป็นสาเหตุหลักของไขมันส่วนเกินที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องในผู้ชายสูงอายุ
การดูดไขมันบริเวณหน้าท้องจะเน้นการกำจัดเฉพาะไขมันใต้ผิวหนังเท่านั้น ในขณะที่ไขมันในช่องท้อง ซึ่งฝังลึกอยู่ภายในช่องท้อง ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการดูดไขมัน ไขมันในช่องท้องสามารถลดลงได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพด้วยการปรับเปลี่ยนอาหารและการออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนักเท่านั้น
NEW ! Option: ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการลดไขมันในช่องท้อง: เทคโนโลยี Slim Ultra
Nida Esth’ เรามีเทคโนโลยี Slim Ultra ซึ่งช่วยลดไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ได้อย่างปลอดภัย Slim Ultra เป็นโปรแกรมนวัตกรรมล่าสุดที่สามารถกำจัดไขมันในช่องท้องโดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินทุกมุมของร่างกาย รวมถึงไขมันในช่องท้องที่การดูดไขมันแบบทั่วไปไม่สามารถกำจัดได้
โปรแกรมนี้มีขั้นตอนการรักษา 2 ขั้นตอน:
1. ใช้พลังงานอัลตราซาวด์ (Ultrasound Energy) เพื่อสลายเซลลูไลท์และลดไขมัน
2. ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio-Frequency Energy) ร่วมกับการระบายน้ำเหลือง (Lymphatic Drainage) เพื่อปรับรูปร่างและกระชับผิว
พูดตามตรงว่าการดูดไขมันแบบดั้งเดิมไม่ใช่หัตถการที่หมอชื่นชอบ เนื่องจากมักมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ตามมา คนไข้ส่วนใหญ่มักประสบปัญหาผิวหย่อนคล้อยและเป็นคลื่นในบริเวณที่ได้รับการดูดไขมัน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการดูดไขมันแบบดั้งเดิม ลองนึกภาพว่าคุณนำฟองน้ำออกจากหมอน ด้านในหมอนก็จะหลวมและเป็นคลื่น เช่นเดียวกับผิวของคุณ เมื่อไขมันใต้ผิวหนังในบริเวณดังกล่าวถูกกำจัดออกไปเหมือนการนำฟองน้ำออก ผิวของคุณก็จะหย่อนคล้อยและเป็นคลื่นตามธรรมชาติ
ที่แย่กว่านั้น หากการดูดไขมันดำเนินการโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์หรือไม่ได้รับการรับรองจากบอร์ดศัลยแพทย์ตกแต่ง อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น ผิวไม่เรียบหรือเป็นก้อน การดูดไขมันที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหารูปร่างผิดปกติ เช่น รอยบุ๋มหรือริ้วรอย และอาจจำเป็นต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามตามที่ต้องการ
NEW ! Option: ตัวเลือกสำหรับการดูดไขมันด้วยเลเซอร์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ: Slim Melt โดย Slim Lipo
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างมากในปัจจุบัน หมอมักจะแนะนำเทคนิคใหม่ของการดูดไขมันด้วยเลเซอร์ (Laser Lipolysis) ให้กับคนไข้ที่ต้องการดูดไขมันเพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่พึงประสงค์หลังจากการรักษา
ที่ Nida Esth’ International หมอใช้ Slim Melt by SlimLipo ซึ่งเป็นเทคนิคการดูดไขมันด้วยเลเซอร์จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น **"การดูดไขมันด้วยเลเซอร์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ" เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการสลายไขมันได้เหมือนการละลายน้ำแข็ง และในขณะเดียวกันยังช่วยกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนเพื่อลดความหย่อนคล้อยของผิวหลังการรักษา ส่งผลให้ผิวบริเวณที่ทำการรักษามีความกระชับและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี Dual Mode ที่มีเลเซอร์ 2 ความยาวคลื่น:
- Lipolysis wavelength สำหรับสลายไขมัน
- Skin tightening wavelength สำหรับกระชับผิว
Slim Melt by SlimLipo® เป็นกระบวนการผ่าตัดเล็กที่ใช้เลเซอร์ (Minimally-invasive Micro Laser Surgery) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะเทคโนโลยีกึ่งผ่าตัดที่ได้รับการยอมรับจากศัลยแพทย์ทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา Slim Melt สามารถสลายไขมันให้กลายเป็นน้ำมันได้เหมือนการละลายน้ำแข็ง โดยใช้เลเซอร์ไฟเบอร์ออปติกขนาดเล็กเพียง **0.3 มม.** สามารถกำจัดไขมันในปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลายบริเวณ รวมถึงบริเวณขนาดเล็ก เช่น คางสองชั้น (Double Chin) ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการดูดไขมันแบบอื่น
คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Slim Melt ได้แก่ Dual Mode ที่นอกจากจะช่วยสลายไขมันและกระชับผิวแล้ว ยังช่วยสร้างรูปร่างที่สมบูรณ์แบบให้กับใบหน้าและร่างกาย พร้อมทั้งลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยหลังการดูดไขมันแบบดั้งเดิม Slim Melt สามารถเข้าถึงเนื้อเยื่อไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่กระทบเนื้อเยื่อข้างเคียง ส่งผลให้ผิวมีอาการบวมและช้ำหลังการรักษาน้อยลง
สิ่งที่ควรทราบคือ ปัญหาผิวหย่อนคล้อยเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากการลดน้ำหนักอย่างมาก และยังอาจเกิดขึ้นเป็นผลข้างเคียงจากการดูดไขมัน Slim Melt by SlimLipo ที่ Nida Esth’ ซึ่งเป็น "การดูดไขมันด้วยเลเซอร์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ" สามารถให้ผลลัพธ์ในการกระชับผิวที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้เป็นวิธีการดูดไขมันเพียงวิธีเดียว ภายใต้แนวคิด 5S ที่โดดเด่นในการดูแลรูปร่างและผิวพรรณอย่างครบวงจร
SLIMMER ผอมเพรียวกว่า
สลายไขมันได้มากกว่าพร้อมรูปร่างผอมเพรียวกว่า
ไขมันลดลง เพราะหลอมละลายไขมันให้กลายเป็นน้ำมันพร้อมดูดออกมาทันที(แทบไม่มีเลือดเจือปน)
↓
SMOOTHER เรียบเนียนกว่า
ผิวเรียบเนียน ด้วย Dual Laser System สลายไขมันพร้อมกระชับผิวได้ในขณะเดียวกัน ปลอดภัยจาก ผิวย้วยเป็นคลื่น
ที่พบได้บ่อยหลังดูดไขมันด้วยวิธีอื่น
↓
SAFER ปลอดภัยกกว่า
ไม่เสี่ยงติดเชื้อปลอดจากการติดเชื้อ
ด้วย Sterilized Laser Tip แบบใช้เฉพาะบุคคลครั้งเดียวทิ้ง ไม่นำกลับมาใช้ซ้ำ
↓
SMALLER WOUND แผลเล็กกว่า
Less Pain & Less Bruise
เจ็บน้อยกว่า ช้ำน้อยกว่าแผลมีขนาดเล็กเพราะเป็นการดูดไขมันด้วยเลซอร์หัวเข็มขนาดจิ๋วเพียง 0.3 มม.
↓
SINGLE TREATMENT ครั้งเดียวจบ
ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเสียทั้งเวลามาทำซ้ำ
เห็นผลรวดเร็วกว่าเพียงการรักษาแค่ครั้งเดียว
หลายคนเข้าใจผิดว่าการดูดไขมันเป็นทางออกวิเศษที่สามารถแก้ปัญหารูปร่างได้ทุกอย่าง แต่หมอต้องขอบอกว่าความเข้าใจนั้น ‘ผิด’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องปัญหาผิวหย่อนคล้อย
เราต้องยอมรับว่าการดูดไขมันแบบดั้งเดิมเป็นเทคนิคการผ่าตัดเก่าที่ถูกนำมาใช้เพื่อลดไขมันใต้ผิวหนังมานานหลายทศวรรษ ในอดีตเรายังไม่มีทางเลือกหรือเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเหมือนในปัจจุบัน ทำให้ต้องยอมรับข้อจำกัด เช่น รอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมร่วมกับผิวหย่อนคล้อย
After childbirth or massive weight loss, not only stubborn excess fat in specific areas but also severe sagging of skin are major concerns all patients. Liposuction alone may not be the best solution in those cases. Before, conventional liposuction was usually done with lipectomy to address the issue of sagging skin but it caused obvious scars as a results which brings to another dissatisfaction especially in easily visible areas such as abdomen and arms.
New! Option : การกระชับผิวและยกกระชับร่างกายที่ดีที่สุดโดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็นในกรุงเทพฯ :BodyLock Younger by J-Plasma+ (Renuvion®)
สิ่งที่หมอมักจะแนะนำสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหลังการดูดไขมันแบบดั้งเดิม หรือแม้กระทั่งผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากการตั้งครรภ์หรือการลดน้ำหนักอย่างมาก ก็คือเทคโนโลยี BodyLock Younger ด้วย J-Plasma+ (Renuvion®) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "วิธีการกระชับและยกกระชับร่างกายที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ" โดยสามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ทั้งในบริเวณลำตัวและบริเวณที่บอบบาง เช่น ใต้คาง
เทคโนโลยีล่าสุดนี้ผสานพลังงานคลื่นขั้นสูง 2 ชนิดที่สามารถทดแทนการผ่าตัดยกกระชับได้มากถึง 80% เช่น การผ่าตัดหน้าท้อง (Tummy Tuck) นับเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้นำการปฏิวัติการรักษาผิวหย่อนคล้อยแบบดั้งเดิมมาใช้ คนไข้ของหมอสามารถบอกลาปัญหาผิวหย่อนคล้อยและคืนความกระชับและความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ด้วยผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการผ่าตัดถึง 80% โดยใช้พลังงานฮีเลียมพลาสมา (Helium Plasma Energy) จาก APYXTM Medical ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันที
นอกจากนี้ การรักษานี้ไม่เจ็บปวดและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน นี่คือเหตุผลที่คนไข้คนดังของหมอส่วนใหญ่มักเลือกใช้วิธีนี้เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาผิวหย่อนคล้อยค่ะ
สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเทคนิคที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างรูปร่างในฝัน ให้ดูดีเหมือนดาราฮอลลีวูด หมอยินดีให้คำปรึกษาแบบเจาะลึกเป็นส่วนตัว เพื่อร่วมกันออกแบบรูปร่างที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของคุณ
ขั้นตอนสำคัญแรกในการดูดไขมันด้วยเลเซอร์และการกระชับผิวคือ Body Simulation Design ด้วย Vectra 3D ซึ่งเป็นการออกแบบสัดส่วนร่างกายเพื่อสร้างภาพจำลอง 3 มิติแบบเสมือนจริงก่อนทำหัตถการ Vectra 3D Simulator เป็นเทคโนโลยีเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตอบโจทย์นี้
คนไข้จะรู้สึกเหมือนได้มองเห็นร่างกายของตนในอนาคตก่อนตัดสินใจทำการรักษา โดย Vectra 3D Body Simulation Design*สามารถออกแบบและปรับแต่งสัดส่วนได้อย่างละเอียดและแม่นยำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความคาดหวังสูงสุด
การประเมินปัญหาและสภาพร่างกาย
- วิเคราะห์สภาพร่างกายภายนอก
- จำลองภาพเพื่อวางแผนการรักษา
- วัดสัดส่วนและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
- กำหนดปริมาณไขมันที่สามารถกำจัดได้
- เปรียบเทียบภาพก่อนและหลังการรักษา รวมถึงภาพจำลองก่อนการรักษาเพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
เทคโนโลยี Robo-Body Scanning Analysis
ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เทคนิคนี้ช่วยตรวจวิเคราะห์ภายในร่างกายเพื่อระบุองค์ประกอบของร่างกายทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย:
- เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย
- ดัชนีมวลกาย (BMI)
- สภาพน้ำหนักตัว
- สภาพกล้ามเนื้อ
- การวัดน้ำหนักมาตรฐาน
- อัตราการเผาผลาญพื้นฐาน (BMR)
- พลังงานที่ใช้ในแต่ละวันทั้งหมด (TDE)
ติดตามเนื้อหาส่วนที่เหลือต่อในตอนถัดไปได้ในตอนที่สอง!
>> 7 Essential Things to Know Before Getting the Best Liposuction in Bangkok Part 2/2 <<
Author:
Dr. Piya Rungruxsiri, MD, or Dr. Piya at Nida Esth' International
Best Plastic Surgeons in Thailand
A Board-certified Plastic Surgeon from General Surgery from Thai Medical Council & the International Society of Aesthetic Plastic Surgery (ISAP)
Membership:
Education:
Affiliated Hospitals